วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Diary Note 17 February 2016

Diary Note No.5

ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

6. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Children with Learning Disabilities) 
•เรียกย่อ ๆ ว่า L.D. (Learning Disability)
•เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง

•ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความ
บกพร่องทางร่างกาย 
สาเหตุของ LD
ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้ (เชื่อมโยงภาพตัว
อักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
กรรมพันธุ์
1. ด้านการอ่าน (Reading Disorder)
หนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้
 ตัวอย่าง
จาน          --->          จาง/บา
ง่วง          --->          ม่วม/ม่ง/ง่ง
เลย          --->           เล
โบราณ      --->          โบรา
หนังสือ      --->         สือ
อรัญ          --->         อะรัย
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการอ่าน
อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
เดาคำเวลาอ่าน
อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคัญไม่ได้
2. ด้านการเขียน (Writing Disorder)
เขียนตัวหนังสือผิด สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ








ลักษณะของเด็ก LD ด้านการเขียน
ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน
เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d, p-q, 6-9
เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก
สะกดคำผิด โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
เขียนไม่ตรงบรรทัด ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากัน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง
3. ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
ตัวเลขผิดลำดับ
ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ ร้อย
แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการคำนวณ
ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสิบร้อยพันหมื่นเป็นเท่าใด
นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
จำสูตรคูณไม่ได้
เขียนเลขกลับกันเช่น13เป็น31
ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น
ตีโจทย์เลขไม่ออก
คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
ไม่เข้าใจเรื่องเวลา
4. หลายๆ ด้านร่วมกัน
อาการที่มักเกิดร่วมกับ LD
แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
สมาธิไม่ดี (เด็ก LD ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
ทำงานช้า
การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
ฟังคำสั่งสับสน
คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
ความจำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
ทำงานสับสนไม่เป็นขั้นตอน
7. ออทิสติก (Autistic)




หรือ ออทิซึ่ม (Autism)
เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม
เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
"ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว" 
ทักษะภาษา
ทักษะทางสังคม
ทักษะการเคลื่อนไหว
ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง ขนาดและพื้นที่ 








ลักษณะของเด็กออทิสติก
อยู่ในโลกของตนเอง
ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
ไม่ยอมพูด
เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ
ดูหน้าแม่                                   --->     ไม่มองตา
หันไปตามเสียง                          --->     เหมือนหหูหนวก
เรียนรู้คำพูดเพิ่มเติม                   --->     เคยพูดได้ต่อมาหยุดพูด 
ร้องเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าใกล้    --->    ไม่สนใจคนรอบข้าง
จำหน้าแม่ได้                              --->     บางคนก็จำคนไม่ได้
เปลี่ยนของเล่น                           --->     นั่งเล่นอย่างใดอย่างหนึ่ง
เคลื่อนไหวอย่างมีจุดมุ่งหมาย     --->     มีพฤติกรรมแปลกๆ
สำรวจและเล่นตุ๊กตา                   --->     ดมหรือเลียตุ๊กตา
ชอบความสุขและกลัวความเจ็บ    --->   ไม่รู้สึกเจ็บปวด ชอบทำร้ายตัวเอง และคนรอบข้าง
เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติกองค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา
ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย 2 ข้อ
ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม ความสนใจ และความสนุก สนานร่วมกับผู้อื่น
ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น
ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย 1 ข้อ
มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่าง
เหมาะสม
พูดซ้ำๆ หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
มีพฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัดอย่างน้อย 1 ข้อ
–มีความสนใจที่ซ้ำๆ อย่างผิดปกติ
–มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
–มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
–สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ
พฤติกรมการทำซ้ำ
นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
พบความผิดปกติอย่างน้อย 1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ
Autistic Savant
กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (visual thinker)
จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (music, math and memory thinker)
จะใช้การคิดแบบนิรนัย (top down thinking) 
ความรู้ที่ได้รับ
  • เรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของเด็กพิเศษ ลักษณะต่างๆๆของโรคนั้นๆ
ประเมินเพื่อนร่วมห้อง
  • เพื่อนตั้งใจเรียนดีมาก 
ประเมินอาจารย์
  • อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา มีน้ำเสียงน่าฟัง สอนเข้าใจ มีเนื้อหาที่ละเอียด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น